16 สุดยอดอาหารบำรุงตับ พร้อมเคล็ดลับที่จะช่วยให้ตับแข็งแรง

ตับนั้นจัดเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสำคัญอย่างมากกับร่างกายของคนเรา เพราะต้องทำหน้าที่หลายอย่างมากในแต่ละวัน โดยเฉพาะหน้าที่หลักที่สำคัญที่สุดของตับก็คือ การกรองของเสีย ขจัดสารพิษตกค้างที่ได้รับจากการทานอาหารให้ออกไปจากร่างกายนั่นเอง ซึ่งทุกวันนี้มีอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย รวมถึงอาหารฟาสต์ฟู้ดอยู่มาก ทำให้ต้องใส่ใจในการ บำรุงตับ มากขึ้น

การทานอาหารของเราในแต่ละวันจึงต้องระมัดระวัง ไม่ทานตามใจปาก เพราะอาหารที่เป็นส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันในตับ

และส่งไปสะสมในร่างกายมากขึ้น ดังนั้นอาหาร บำรุงตับ จึงมีความสำคัญ เพื่อบำรุงตับของเราให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและอยู่คู่กับร่างกายเราไปอีกนาน เราจึงควรรับประทานอาหารบำรุงตับ ดังต่อไปนี้

อาหารบำรุงตับ อย่างแรกที่จะช่วยบำรุงตับให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี ก็คือ กะหล่ำปลีนี่แหละครับ เพราะในกะหล่ำปลีมีส่วนช่วยเพิ่มกลูต้าไธโอนในร่างกาย ทำให้ล้างสารพิษ บำรุงตับได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องเผชิญทั้งมลภาวะตามท้องถนน และต้องดื่มแอลกอฮอล์สังสรรค์เป็นประจำ

บำรุงตับ ให้ดีไม่ต้องหาอาหารที่ไหนไกลครับ เพราะลิ้นจี่นี้ก็เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน กลูโคส และกรดซิตริก ซึ่งทางการแพทย์แผนจีนเค้ายกย่องให้ลิ้นจี่เป็นอาหารบำรุงตับอย่างแท้จริงเลยนะ เพราะมีฤทธิ์อุ่นช่วยบรรเทาอาการอักเสบของตับได้ แต่ยังไงก็ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการคอแห้ง เจ็บคอ ปวดฟัน หรือท้องผูกสักเท่าไหร่ เพราะอาจยิ่งทำให้อาการเหล่านั้นกำเริบหนักได้

บำรุงตับด้วยแครอทนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะในแครอทมีวิตามินหลากหลายชนิด ทั้งวิตามิน A, B1, B2, C, D และ K อีกทั้งยังมีกรดโฟลิกฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และทองแดง ซึ่งทั้งหมดนี้มีคุณสมบัติช่วยบำรุงตับตามศาสตร์แพทย์แผนจีน ซึ่งมีผลพลอยได้ที่จะช่วยบำรุงเลือด และบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย

ผลไม้เกรปฟุตนี้ก็ช่วยบำรุงตับได้ไม่แพ้ใครเลยล่ะครับ เพราะเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีตัวช่วยสำคัญในการบำรุงตับอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้จะช่วยล้างพิษในตับ ลดความเสี่ยงมะเร็ง โดยเราสามารถนำเกรปฟรุตมากินแบบสด ๆ หรือใครชอบคั้นน้ำดื่มก็ทำได้เช่นกัน

สารฟลาโวนอยด์ในบีทรูทเองก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยชั้นดีที่จะบำรุงตับของเราให้แข็งแรงอย่างเห็นผล เพราะสารตัวนี้จะเข้าไปบำรุงตับ และทำให้ตับฟื้นฟูตัวเอง นับเป็นพืชที่ช่วยบำรุงการทำงานทุกส่วนของตับเลยก็ว่าได้

บำรุงตับด้วยผลไม้กันมาเยอะแล้ว มาดูที่ทางผักใบเขียวกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นผักโขม ผักกาดขาว หรือผักใบเขียวอื่น ๆ ก็มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดโลหะหนักในตับได้ทั้งสิ้น ซึ่งจะช่วยชะล้างสารเคมีที่สะสมในตับได้อย่างหมดจด โดยเฉพาะพวกยาฆ่าแมลงที่เรามักจะกินเข้าไปโดยไม่รู้ตัวนี่แหละครับ

อาหารบำรุงตับ ข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลาย ๆ คน เพราะชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระล้นเหลือเลยล่ะ ทำให้มีส่วนช่วยในการบำรุงตับได้เป็นอย่างดี และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งตับได้อีกต่างหาก เป็นของว่างชวนอร่อยที่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง

อีกหนึ่งผลไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยในการลดน้ำหนัก ขจัดสารพิษ และบำรุงร่างกายแบบองค์รวมเท่านั้น แต่อะโวคาโดยังช่วยบำรุงตับได้เป็นอย่างดี เพราะมีกลูต้าไธโอนอยู่เพียบ แถมมีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ทำให้ยิ่งทานยิ่งความจำดี สุขภาพผิวดี หุ่นดี ตับดี ดีทุกส่วนในร่างกาย

นอกจากบรอกโคลีแล้ว มันเทศเองก็ช่วย บำรุงตับ ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นอาหารบำรุงตับที่มีกลูโคชิโนเลต ซึ่งเป็นสารอาหารที่หาได้จากพืชผักอยู่เพียบ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิตเอนไซม์ต่อต้านสารพิษ และเอนไซม์ที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ตับลดภาระหนักได้ในแต่ละวัน

ในวอลนัทมีสารสำคัญที่ช่วยบำรุงตับหลัก ๆ อยู่ 2 ชนิดด้วยกัน คือ กรดไขมันโอเมก้า 3 และกลูต้าไธโอน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการขจัดสารพิษออกจากตับ ทำให้การทำงานของตับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้แล้วเห็ดที่เป็นสมุนไพรโบราณเองก็ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงตับได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม เห็ดหูหนู หรือเห็ดหลินจือ เพราะเป็นอาหารลำดับต้น ๆ ที่ช่วยบำรุงตับได้เป็นอย่างดี ช่วยลดไขมันที่สะสมในตับและกระแสเลือด ต่อต้านการเกิดมะเร็ง และเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดขาวด้วย

ตัวช่วยบำรุงตับชั้นดีก็คือ ข้าวกล้องนี่แหละครับ เพราะมีคาร์โบไฮเดรตสูง มีวิตามินบีรวม ถ้าทานในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะช่วยสร้างไกลโคเจนในตับได้ ทำให้ช่วยฟื้นฟูให้ตับแข็งแรง และทำหน้าที่ของมันต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างที่รู้กันดีว่าตับนั้นต้องการโอเมก้า 3 เพื่อไปบำรุงการทำงานของมันอย่างเต็มที่ ซึ่งเนื้อปลามีสารอาหารบำรุงตับตัวนี้อยู่มาก เป็นตัวช่วยสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของตับที่เสียหายให้กลับมาฟื้นฟูและทำงานได้ดีอีกครั้ง

ในเก๋ากี้เองนั้นจะมีเบต้าแคโรทีน กรดกำมะถัน แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน E, B2 ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาว และลดไขมันในเลือด ซึ่งจะบำรุงตับให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันไม่ให้ไขมันมาพอกตับมากกว่าเดิม

บำรุงตับด้วยขมิ้นชันจะทำให้ตับฟื้นฟู และช่วยล้างสารพิษออกจากตับ ทำให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อสารพิษได้ดียิ่งขึ้น

มะขามป้อมเป็นอาหารบำรุงตับที่อุดมด้วยวิตามิน C มากกว่าแอปเปิ้ลถึง 160 เท่าเลยทีเดียว และช่วยป้องกันการเกิดพิษโลหะหนักต่อตับ ยับยั้งการเกิดมะเร็งตับ อีกทั้งยังช่วยรักษาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบได้อีกด้วย นับเป็นอาหารบำรุงตับที่ทุกบ้านควรมีจริง ๆ

ถ้าอยากบำรุงตับให้ได้สุขภาพดี การทานอาหารที่ช่วยบำรุงตับอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องลด ละ เลิก ทานอาหารทำร้ายตับเหล่านี้ด้วย

1. บำรุงตับ ด้วยการเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว

ไขมันอิ่มตัวมักจะพบได้ในเนื้อสัตว์ เนยแข็ง มาการ์รีน และของทอด ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้ตับทำงานหนักอย่างมาก และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ไว้เป็นดีที่สุด

2. น้ำตาลขาวขัดสี

สารต่าง ๆ เช่น ซูโครส มอลโตส กลูโคส กาแล็กโทส เหล่านี้เป็นน้ำตาลธรรมชาติในอาหารทั้งสิ้น ซึ่งควรจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะเป็นตัวการที่ส่งผลให้ตับทำงานหนักขึ้น

นอกจากการทานอาหารบำรุงตับแล้ว ตัวเราเองก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อให้ตับของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน ถึงจะได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร และเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างชัดเจน โดยเคล็ดลับในการบำรุงตับก็มีง่าย ๆ ดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
2. ไม่ทานอาหารที่ย่อยยาก โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง
3. ไม่ทานอาหารมากเกินไป หรืออิ่มแน่นจนเกินไป และงดทานอาหารมื้อดึก
4. ไม่นอนดึก หรือนอนหลัง 4 ทุ่ม เพราะช่วง 4 ทุ่ม – ตี2 เป็นเวลาที่ตับใช้ซ่อมแซมตัวเอง
5. ขับถ่ายให้เป็นเวลา อย่าอั้นการขับถ่ายนาน ๆ เพราะจะทำให้ท้องผูก และทำให้ตับทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม
6. ดื่มน้ำผักผลไม้บ่อย ๆ เพื่อบำรุงตับ ซึ่งน้ำผักผลไม้จะมีเส้นใยอาหารมาก ทำให้ลดอาการท้องผูก และช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ตับทำงานได้น้อยลง
7. ระมัดระวังในการกินยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อตับ
8. ฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ
9. เน้นทานอาหารไทยแบบท้องถิ่น พื้นบ้านเดิม ๆ อาหารธรรมชาติ เพื่อสุขภาพของตัวเอง
10. กำหนดนาฬิกาชีวิต ทั้งการกิน การนอน การขับถ่าย ให้เป็นตามเวลา ทำให้ร่างกายปรับสมดุลแบบองค์รวม
11. หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ตามธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมี สารพิษ เข้าสู่ร่างกายจากการดำเนินชีวิต
12. ปัสสาวะทุกเช้าหลังตื่นนอน เนื่องจากระหว่างนอนร่างกายจะเก็บปัสสาวะไว้ปริมาณมาก ทำให้ตับทำงานหนัก

แนวทางในการทานอาหารบำรุงตับนั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่ 8 ขั้นตอนนี้ก็ช่วยให้สุขภาพของตับเราแข็งแรงได้แล้ว

1. กินอาหารสุก ดื่มน้ำต้มสุก งดกินน้ำแข็งที่ไม่แน่ใจว่าสะอาดหรือไม่
2. งดกินของหมักดอง ถั่วป่น พริกป่น เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อโรคปนเปื้อน
3. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในทุก ๆ มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอทุกวัน
4. กินอาหารโปรตีนให้ได้มากเท่าน้ำหนักตัว เช่น หนัก 80 ก็ต้องกิน 80 กรัม ต่อวัน เพราะโปรตีนจะช่วยซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ บำรุงตับได้เป็นอย่างดี
5. งดอาหารที่มีไขมันไปเลย เพราะจะทำให้ตับทำงานหนัก เกิดปัญหาคลื่นไส้ ท้องอืด อาเจียน
6. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
7. ถ้ามีภาวะตับอักเสบมากจนทำให้กินอาหารได้ไม่พอกับความต้องการของร่างกาย ก็อาจต้องทานอาหารเสริมที่แพทย์แนะนำเพื่อปรับสมดุลบำรุงตับให้แข็งแรง
8. กินร้อน ช้อนกลาง ช่วยบำรุงตับง่าย ๆ แค่เปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น

ตับอักเสบ ไวรัสตับอักเสบคืออะไร ทำไมคนไทยถึงเป็นกันเยอะมากกก เรารวมข้อมูลไว้ให้คุณทั้งหมดแล้วไม่ว่าจะเป็น อาการแบบไหนที่บอกว่าคุณกำลังเป็นตับอักเสบ, คุณเป็นตับอักเสบขั้นไหน, วิธีดูแลป้องกันตัวเองเมื่อเป็น, พร้อมวิธีรักษา ครบจบในบทความเดียว ถ้าอยากรู้คลิกที่ลิงค์นี้เลยครับ ตับอักเสบภัยร้ายใกล้ตัวของคนไทยทั้งประเทศ

สุดท้ายแล้วการบำรุงตับให้มีสุขภาพดีจริง ๆ นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองนี่แหละครับ เพราะถ้าเราสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ทุกวัน ออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญ ทานอาหารบำรุงตับเหล่านี้ทุกมื้อ หรือมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก็จะช่วยปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเมื่อตับซึ่งเป็นศูนย์กลางการทำงานของร่างกาย ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายคนเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

จำไว้นะครับว่าตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมากต่อการดำรงชีวิต และมีเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นการรักษาตับ และบำรุงตับให้ดีที่สุดจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ รวมทั้งตรวจสุขภาพประจำปีเช็กค่าตับอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี เพื่อเช็กสุขภาพตับไม่ให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจสายเกินแก้

บทความแนะนำ:
3 กระบวนการทำงานของตับและการกำจัดสารพิษ