(Last Updated On: 01/11/2021)
ประโยชน์ใบแปะก๊วย

สมุนไพรของจีนที่มีคุณประโยชน์กับร่างกาย อาจมีมากมายหลากหลายชนิด ขนาดที่ว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของร้านสมุนไพรจีนก็อาจจะไม่สามารถพูดออกมาได้ครบแน่ ๆ แต่มีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่หากพูดชื่อออกมาแล้ว หลายคนคงจะคุ้นหู และรู้จักกันแน่ ๆ ก็คือ แปะก๊วยนั่นเอง! แต่ ประโยชน์ใบแปะก๊วย จะดีงามตามที่เคยได้ยินมาหรือไม่ ต้องทานแบบไหนถึงจะดีและโดน อยากรู้ก็ตามเรามากันเลย

แปะก๊วย (Ginkgo Biloba หรือ Maidenhair) เป็นสมุนไพรจีนโบราณ มีต้นกำเนิดในแถบทางตะวันออกของจีน พบประวัติตั้งแต่เมื่อประมาณ 300 ล้านปีก่อน ส่วนใหญ่ที่มักจะถูกนำมาใช้สกัดเพื่อทำเป็นยา หรือเพื่อใช้ในทางด้านอื่น ๆ โดยนิยมใช้ในส่วนของ ใบแปะก๊วย ลักษณะของใบจะแยกเป็นแฉกเหมือนใบพัด 2 ใบติดกัน สามารถนำมาประยุกต์เพื่อใช้ประโยชน์ได้มากมาย โดยเฉพาะการบำรุงร่างกาย มีสรรพคุณค่อนข้างหลากหลาย บางประเทศถูกจัดเป็นยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น เช่น ประเทศเยอรมัน แต่ในไทยสามารถซื้อรับประทานเองได้ นอกจากจะเอามาสกัดเพื่อใช้เป็นยาแล้ว ผู้คนบางส่วนก็ยังเอามาใช้ประกอบอาหารอีกด้วย

ซึ่ง แปะก๊วย นั้นแม้ชื่อจะสั้นเพียง 2 พยางค์ แต่หากจะให้ไล่เรียง ประโยชน์ใบแปะก๊วย และเมล็ดแปะก๊วยก็คงจะไล่เรียงไม่หวาดไหว จึงขอยกแต่เพียงบางส่วนมาบอกเล่า ดังนี้

ประโยชน์ใบแปะก๊วย ต้านอนุมูลอิสระ

1. แหล่งต้านอนุมูลอิสระชั้นดีที่มีใน ใบแปะก๊วย

เมื่อแปะก๊วยถูกสกัดออกมาด้วยตัวทำละลาย จะได้สารสกัดไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) เจ้าสารสกัดตัวนี้ จะช่วยต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ช่วยให้ป้องกันการก่อมะเร็งได้ส่วนหนึ่ง รวมถึงช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ดวงตา ช่วยชะลอการเสื่อมของดวงตา ช่วยให้ประสาทตาสามารถทำงานมองเห็นภาพได้เป็นปกติ เห็นสีชัดเจน ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน อาจช่วยป้องกันอาการที่คนทั่วไปเรียกว่า เบาหวานขึ้นตา นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดอาการจอประสาทตาเสื่อมที่อาจพบได้บ่อยในเหล่าผู้สูงอายุอีกด้วย

ประโยชน์ใบแปะก๊วย บำรุงสมอง

2. ใบแปะก๊วย ฟูลคอร์สอาหารสมองชั้นเลิศ

นอกจากสารสกัดไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoids) แล้ว ยังได้สารไบโลบาไลด์ (Bilobalides) และกิงโกไลด์ (Ginkgolides) สามารถต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดภายในตัวไหลเวียนได้ดีขึ้น ตั้งแต่ระบบไหลเวียนเลือดให้สามารถลำเลียงอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงภายในสมองได้ปกติ

ประโยชน์ใบแปะก๊วย ถัดมาคือ ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันและรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับสมองทั้งหลาย เช่น ป้องกันสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ ทั้งยังช่วยให้ระบบเกี่ยวกับความจำสามารถทำงานได้ปกติดี สามารถจดจำได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการวิตกกังวลได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้ทานจะรู้สึกมีสมาธิมากขึ้น และสามารถคิดเรื่องต่าง ๆ หรือคำนวณได้ค่อนข้างรวดเร็วขึ้น ลดอาการวิงเวียนศีรษะ และการทรงตัว ลดอาการบ้านหมุน

ประโยชน์ใบแปะก๊วย โรคซึมเศร้า

3. โรคซึมเศร้า และโรคเกี่ยวกับจิตใจที่ไม่ควรมองข้ามกับใบแปะก๊วย

โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่พบเจอในผู้คนทั่วไปได้บ่อยมากขึ้น บางรายอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว หลายคนไม่ยอมเข้ารับการรักษาด้วยยา เนื่องจากเกรงกลัวในผลข้างเคียงของยา หากจะช่วยบรรเทาอาการโดยไม่อยากพึ่งยา ใบแปะก๊วยก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ มีผลการวิจัยบางแห่งออกมาว่า เมื่อทานแล้วจะรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้น นักจิตแพทย์หลายท่านจึงเลือกนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า

ในส่วนโรคจิตเภท (Schizophrenia) สารสกัดจากแปะก๊วยอาจไม่สามารถทำหน้าที่แทนยารักษาอาการได้ แต่หากรับประทานควบคู่กับยาที่ใช้เพื่อรักษาอาการโดยตรง จะยิ่งทำให้มีอาการดีขึ้นได้ไวมากขึ้น อีกทั้งลดอาการที่อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาได้อีกด้วย

ประโยชน์ใบแปะก๊วย ระงับอารมณ์

4. ประโยชน์ใบแปะก๊วย กับเรื่องเฉพาะของแต่ละเพศ

ผู้หญิงที่ยังสามารถมีประจำเดือน ใบแปะก๊วยจะช่วยลดอาการปวดท้องมีประจำเดือน โดยการกินสารสกัดจากใบแปะก๊วยหลังจากมีประจำเดือนวันแรก จนถึงวันที่ 5 หลังมีประจำเดือน จะสามารถช่วยลดอาการคัดหรือเจ็บหน้าอก และอาการอื่น ๆ ที่มีขึ้นขณะเป็นประจำเดือนได้ ในส่วนของผู้ชายระบบไหลเวียนเลือดจะทำงานได้ดีขึ้น เลือดจะไหลเวียนไปยังระบบอวัยวะเพศทำให้ช่วยป้องกันและรักษาอาการสมรรถภาพทางเพศเสื่อมได้

ประโยชน์ใบแปะก๊วย รักษาโรค

5. โรคอื่น ๆ ใบแปะก๊วยก็ช่วยเป็นฮีโร่ได้อย่างเหลือเชื่อ

นอกจากที่กล่าวไปในหลากหลายข้อข้างต้น ใบแปะก๊วยยังช่วยบรรเทาอาการจากโรคเรเนาด์ (Raynaud’s disease) โดยโรคดังกล่าวจะเกิดภาวะหดตัวที่หลอดเลือดในบริเวณอวัยวะส่วนปลายของร่างกาย เช่น แขน ขา มือ เท้า ฯลฯ เมื่อเลือดไม่สามารถไปไหลเวียนได้เป็นปกติก็จะทำให้เกิดอาการชา หากรับประทานใบแปะก๊วยก็จะทำให้เลือดสามารถไหลเวียนเป็นปกติได้ดีขึ้น

ในส่วนอาการหลังจากการฉายรังสีรักษาโรคมะเร็ง การกินสารสกัดจากใบแปะก๊วยสามารถช่วยลดอาการข้างเคียงต่าง ๆ จากการฉายรังสีได้ เช่น อาการคลื่นไส้อาเจียน ฯลฯ

ในส่วนของโรคด่างขาวมีบางแหล่งบอกว่า สามารถช่วยลดการกระจาย และขนาดของด่างขาวที่เกิดขึ้นตามผิวหนังได้

ประโยชน์ใบแปะก๊วย มีมากมาย แต่ถ้าทานมากไปล่ะ ?

สิ่งที่กล่าวไปในข้างต้นเป็นเพียงประโยชน์ของใบแปะก๊วยแต่เพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีประโยชน์อีกมากมายให้เราได้ศึกษาและพิสูจน์ แต่ทุกสิ่งบนโลกล้วนมีสองด้าน คือด้านดีและด้านไม่ดี หากทานในปริมาณที่พอดีและเหมาะสมก็จะได้รับประโยชน์อนันต์ แต่หากทานในปริมาณหรือวิธีการที่ไม่เหมาะสมก็อาจเป็นโทษมหันต์ได้เช่นกัน เราจึงควรจะต้องมานั่งศึกษากันในหัวข้อถัดไป

ไม่ใช่เพียงแต่การกินแปะก๊วยจะมีแต่ประโยชน์เท่านั้น หากแต่เมื่อทานไปในปริมาณมากเกินปริมาณที่เหมาะสม หรือผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดโทษได้ เช่น ส่วนเมล็ดของแปะก๊วย ไม่ควรต้มแล้วรับประทานเกิน 10 เม็ดต่อวันขึ้นไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการเป็นพิษ มีผื่นขึ้นทั่วตามผิวหนัง ระบบหายใจทำงานลำบาก ชีพจรเต้นอ่อนลง มีอาการปวดหัว คลื่นไส้อยากอาเจียน หรืออาจเกิดอาการชัก หมดสติได้ และผลสดที่ไม่ผ่านการต้ม หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้เป็นพิษ เกิดอาการชักหรือเสียชีวิตได้ ใบแปะก๊วยต้องรับประทานเฉพาะที่สกัดออกมาจากใบแล้วเท่านั้น

บุคคล 3 กลุ่มที่ห้ามทานแปะก๊วย

บุคคล 3 กลุ่มที่ห้ามทานแปะก๊วย ได้แก่ ผู้ที่ใช้สารป้องกันการเกิดลิ่มเลือด (Anti-coaggulant) เนื่องจากแปะก๊วยทำให้ระบบเลือดไหลเวียนมากขึ้น จึงอาจก่อให้เกิดอาการเกี่ยวกับปัญหาการแข็งตัวของเลือด ต่อมาคือผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับความดัน เนื่องจากเมื่อทานไปหลอดเลือดจะขยายตัว ซึ่งอาจส่งผลกับผู้ป่วยได้ และกลุ่มสุดท้ายคือ สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน เนื่องจากอาจมีผลถึงเด็กในครรภ์

แปะก๊วยกับอาหาร นอกจากอิ่มอร่อย ยังสุขภาพดี

เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วว่า แปะก๊วยนั้นมีประโยชน์แค่ไหน เพียงแค่เรากินแปะก๊วยให้ถูกวิธีในปริมาณที่พอเหมาะ เราก็จะได้รับคุณประโยชน์จากแปะก๊วยมาเต็มโดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายของเราอีกด้วย แต่ทุกคนคงสงสัยกันว่า เราจะกินมันยังไงถึงจะอิ่มอร่อยโดนใจ โดยเฉพาะรสชาติของเมล็ดแปะก๊วยจะมีรสที่ค่อนข้างขม ดังนั้นก่อนเราจะนำเมล็ดแปะก๊วยมาทำอาหาร เราควรจะเตรียมการเมล็ดแปะก๊วยให้มีรสชาติที่ดี สามารถรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อยเสียก่อน งั้นทุกคนตามเรามาดูวิธีการขจัดรสชาติขมของเมล็ดแปะก๊วยกันเลย

ก่อนที่จะนำเมล็ดแปะก๊วยมาทำอาหารอะไรก็ตาม เราจะต้องนำเมล็ดแปะก๊วยที่ซื้อมาแบบยังไม่ได้แกะเปลือกแช่น้ำก่อนซักประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง และคัดเลือกเมล็ดที่เสียทิ้งไป เมื่อได้เวลาแล้วก็นำเมล็ดแปะก๊วยที่แช่อยู่มาล้างน้ำให้สะอาดและนำไปต้มในน้ำเดือดโดยใช้เวลาต้มประมาน 10 – 15 นาที เพื่อให้เมล็ดแปะก๊วยสุก หลังจากนั้นให้เทน้ำเดือดทิ้งไป แล้วนำเมล็ดแปะก๊วยไปแช่ในน้ำเย็น 5 – 10 นาที เพื่อให้เราสามารถกระเทาะเปลือกของเมล็ดแปะก๊วยออกได้ง่ายขึ้น ไม่ทำให้ตัวแปะก๊วยข้างในแตก เมื่อเราจัดการแกะเปลือกเรียบร้อยให้เราสังเกตที่แปะก๊วยดี ๆ เราจะเห็นว่าข้างในแกนกลางมีไส้อยู่เป็นสีเขียว ๆ ดำ ๆ ให้เราดึงมันออกจะทำให้รสขมนั้นหมดไป

เพียงเท่านี้เราก็สามารถนำแปะก๊วยมาทำเป็นเมนูต่าง ๆ โดยที่ไม่มีรสชาติขมมาทำให้เรารู้สึกไม่อยากกินแปะก๊วยอีกแล้ว เราจะรังสรรค์เมนูแปะก๊วยได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อย่างเช่น ข้าวผัดแปะก๊วย กุ้งผัดแปะก๊วย แปะก๊วยคั่วเกลือ หรือจะทำเป็นขนมหวานง่าย ๆ ที่ทำให้เรากินแล้วรู้สึกสดชื่นก็ได้ เช่น ทำเป็นบิงซูแปะก๊วย โอนีแปะก๊วย หรือแปะก๊วยนมสดที่เรารู้จักกันดีก็ได้ หากใครที่ต้องการนำแปะก๊วยมาทำอาหารด้วยตัวเอง เราก็อยากให้ทุกคนลองนำวิธีนี้ไปทำตามกันดูนะ นอกจากจะทำให้อาหารอิ่มอร่อยแล้ว ยังได้ประโยชน์ดี ๆ จากแปะก๊วยอีกด้วย

อาหารเสริมจากแปะก๊วยทางเลือกที่ปูพรมแดงให้สุขภาพดี

หากคนทั่วไปที่อ่านบทความนี้แล้วสนใจใน ประโยชน์ใบแปะก๊วย อยากลองรับประทานแปะก๊วยบ้าง ในปัจจุบันนี้ก็มีการผลิตยา หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมจากแปะก๊วยมามากมายหลากหลายยี่ห้อและหลากหลายสูตรมาผสมด้วยกัน ขอให้ทุกคนไม่เพียงแต่เลือกตามสรรพคุณที่อวดอ้าง แต่ขอให้ดูเครื่องหมายการรับรองที่จำเป็นจะต้องมี เช่น หมายเลข อย. มีฉลากอาหารเสริม มีสูตรที่เหมาะสมต่อการทานคือ ไม่เกิน 120 มิลลิกรัมต่อวันอีกด้วย ทางเลือกในการรับประทานอาหารเสริมนี้ นับเป็นอีกทางที่สามารถช่วยให้ผู้ต้องการทานสามารถได้รับสารสกัดจากใบแปะก๊วย และรับ ประโยชน์ของใบแปะก๊วย ได้อย่างตรงจุด และเหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลใด ๆ เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญคัดและสกัดออกมาให้ทานตามความเหมาะสมแล้ว อีกทั้งคุณประโยชน์ดี ๆ ก็ไม่เสียไปบางส่วนเหมือนการนำมาประกอบอาหารเองอีกด้วย เปรียบเสมือนการปูพรมแดงให้สุขภาพเราเดินไปในทางที่ดีได้แบบสบาย ๆ

ไม่แปลกใจเลยที่แม้ใบแปะก๊วยจะเป็นสมุนไพรโบราณจากจีน แต่กลับโด่งดังและเป็นที่คุ้นหูของผู้คนชาวไทยและทั่วโลกในปัจจุบัน เห็นได้จากประโยชน์ของใบแปะก๊วย ที่ถูกอัดแน่นมาเต็มอณูภายในใบเล็ก ๆ แล้วถูกสกัดออกมาให้คนรักสุขภาพในปัจจุบันได้ทานกันอย่างง่ายดาย นอกจากการทานแปะก๊วย ทุกคนก็ควรดูแลสุขภาพจิตใจภายใน พักผ่อนให้เพียงพอ แบ่งเวลาว่างเพื่อมาออกกำลังกายควบคู่กันไป ให้ทั้งระบบภายในและระบบภายนอกทำงานได้ดีต่อไปสวนทางกับอายุที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน จนใคร ๆ ก็ต้องทักถามหาเคล็ดลับกันเลย!